ชุมชนคุณภาพดีในวันนี้ สร้างอนาคตประเทศชาติที่ดีในวันหน้า … วันนี้ผม “นายอาสา พาเจริญ” พาทุกท่านไปรู้จักกับ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ที่สร้างขึ้นโดยชุมชน เพื่อชุมชน ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้าให้ยั่งยืน ผมเชื่อเหลือเกินครับว่า เมื่อเราประสานพลังรวมกันเป็นหนึ่งแล้ว … ประเทศไทยจะก้าวไกล ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน เมื่อ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” เกิดขึ้น ชุมชนรอบๆ โรงไฟฟ้าก็จะได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆ แต่เอ๊ะ ! หลายท่านอาจจะยังสงสัยว่า แล้วแหล่งที่มาของ “เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า” นี้มาจากไหน ? ผม … นายอาสา พาเจริญ จะพาทุกท่านไปหาคำตอบ ไขข้อสงสัยกันครับ

กองทุนพัฒนาไฟฟ้าเริ่มเรียก “เก็บเงิน” จาก “ผู้ได้รับใบอนุญาต” เมื่อใด ?
เมื่อมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ “โรงไฟฟ้า” จะต้องจ่ายเงินเข้า “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ระหว่างการก่อสร้าง จนถึงวันที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบพาณิชย์ (COD) โดยคำนวณเงินที่นำส่งตามประมาณการกำลังผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้าในอัตรา 50,000 บาทต่อเมกะวัตต์ต่อปี สำหรับปีใดที่มีการก่อสร้างไม่ครบปี ให้นำส่งตามสัดส่วนของเดือนที่ทำการก่อสร้างในปีนั้น ต้องไม่น้อยกว่าปีละ 50,000 บาท

ระหว่างผลิตไฟฟ้า กองทุนพัฒนาไฟฟ้าเรียก “เก็บเงิน” อย่างไร ?
ระหว่างการผลิตไฟฟ้า นับตั้งแต่วันที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบพาณิชย์ (COD) เป็นต้นไป โดยคำนวณจำนวนเงินที่นำส่งตามปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตเมื่อจำหน่ายหรือใช้เอง โดยไม่รวมถึงพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตภายในโรงไฟฟ้าในแต่ละเดือน ตามชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า

ทำความรู้จักกับ “เชื้อเพลิง” ที่ใช้ผลิตไฟฟ้ากันเถอะ
เชื้อเพลิงที่ใช้ในการ “ผลิตไฟฟ้า” นั้นมี 3 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะถูก “เรียกเก็บเงิน” เข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าในเรทที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. ถ้าใช้ถ่านหิน ลิกไนต์ หรือพลังน้ำจากเขื่อนในการผลิตไฟฟ้า จะเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า จำนวน 2 สตางค์ / หน่วย
2. ถ้าใช้น้ำมันเตา หรือ น้ำมันดีเซลผลิตไฟฟ้า จะเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า จำนวน 1.5 สตางค์ / หน่ว
3. ถ้าใช้ก๊าซธรรมชาติ ลม แสงอาทิตย์ หรือพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ จะเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า จำนวน 1 สตางค์ / หน่วย

คำถามข้อสุดท้าย ไขข้อสงสัย … ใครคือผู้ดูแลกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ?
“เงินทุกบาททุกสตางค์” ที่เรียกเก็บจาก “ผู้ได้รับใบอนุญาต” คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. รับหน้าที่เป็น “ผู้ดูแล” และ “กำหนดนโยบาย” โดยใช้งบประมาณเพียง 5 % ของเงินที่เก็บเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการ และใช้เพื่อ “อุดหนุน” ให้กองทุนใน “พื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก” ซึ่งได้รับเงินน้อย ไม่เพียงพอต่อการพัฒนา แถมยังเป็นเงินสำรองเพื่อใช้ช่วยเหลือ “ชุมชน” ที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว หากเกิดในกรณีฉุกเฉินอีกด้วย … น่าปรบมือจริงๆ ครับ
ส่วน 95 % ของเงินที่เก็บเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้านั้น จะนำไปใช้ใน “กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ” อย่างเต็มรูปแบบ
รู้แล้วใช่ไหมครับว่า กองทุนพัฒนาไฟฟ้า นั้นจัดตั้งขึ้นมาเพื่อสรรค์สร้างและพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืนโดยแท้ หลายคนคงได้ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ “แหล่งที่มาของเงิน” กันแล้วสินะครับ แท้จริงแล้วทุกภาคส่วนนั้นต่างอยากจะช่วยสร้าง “พลังงานที่มั่นคง” ควบคู่กับ “ชุมชนที่เข้มแข็ง” เพราะที่ไหนมี “โรงงานไฟฟ้า” ชุมชนรอบๆ บริเวณนั้นก็จะมีแต่ความ “เจริญ”
รวมพลังสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ร่วมมือกับ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” แล้วกลับมาพบกับผม “นายอาสา พาเจริญ” ได้ใหม่ครับพี่น้องคนไทยทุกคน …